การเข้าพบของคณะผู้แทน O2OESG และ Sustainism Initiatives กับผู้บริหารบริษัท คลีนมหานคร จำกัด

คณะผู้แทนจากองค์กรระดับนานาชาติด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนนำโดย

• คุณเพชร ประภากิตติกุล จากองค์กร AFMA (Agricultural and Food Marketing Association for Asia and the Pacific)และในฐานะ ผู้อำนวยการองค์กร Sustainism Initiatives (STNSM)ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านนโยบายความยั่งยืนที่อยู่ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO – UN)ร่วมกับ

• คุณพรพจน์ เชาว์วิรกิจ จากองค์กร O2OESG

ได้เข้าพบ คุณภูริตา อังสุวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลีนมหานคร จำกัด (Clean Mahanakorn Co., Ltd.)เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการพัฒนา “โครงการต้นแบบด้านความยั่งยืน (Sustainability Demonstration Project)”ที่จะถูกนำเสนอในเวทีระดับโลกต่อ องค์การสหประชาชาติ (United Nations)ภายในปี 2026

🌱 วัตถุประสงค์ของการเข้าพบ

การหารือในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ

• ศึกษาระบบการบริหารจัดการขยะของบริษัทคลีนมหานคร

• วิเคราะห์แนวคิด “ระบบแบ่งปันผลประโยชน์ (Benefit-Sharing System)”ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสังคมที่ทำให้พนักงานทุกฝ่ายในกระบวนการเก็บขนขยะตั้งแต่ คนขับรถ เด็กท้ายรถ ผู้คัดแยกขยะ จนถึงฝ่ายบริหารได้รับผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเท่าเทียมและโปร่งใส

ทางผู้แทนจาก O2OESG และ STNSM เห็นว่าระบบนี้เป็น “แนวทางสร้างความยั่งยืนจากฐานราก”ซึ่งสะท้อนหลักการสำคัญของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs)และเป็นตัวอย่างของการเชื่อมโยง “เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” เข้าด้วยกันอย่างเป็นรูปธรรม

🌍 ความร่วมมือสู่เวทีโลก

ในการพูดคุย ได้มีการตกลงร่วมกันว่าองค์กร Sustainism Initiatives (STNSM) และ O2OESGจะร่วมกับบริษัท คลีนมหานคร จำกัดจัดทำเอกสารรายงานกรณีศึกษา (Case Study Report)ภายใต้หัวข้อ “Benefit-Sharing Sustainability Model”เพื่อใช้ประกาศต่อเวที O2OESG Forum @United Nations 2026

โดยก่อนถึงงานใหญ่ในปีหน้าบริษัทคลีนมหานครจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมเวทีสำคัญ“Climate and Sustainability Capital Forum @United Nations”ในวันที่ 21 ตุลาคม 2025เพื่อเป็นองค์กรตัวแทนจากประเทศไทยที่นำเสนอแนวคิด “เพราะทุกฝ่ายได้รับประโยชน์สูงสุด ความยั่งยืนจึงจะเกิดขึ้นได้จริง”

🕊️ สรุปสาระสำคัญ

การเข้าพบของทั้งสององค์กรในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการแสดงความชื่นชมต่อแนวคิดและการดำเนินงานของคลีนมหานครแต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่อขยายผลแนวคิด “Benefit-Sharing System”ให้กลายเป็น ต้นแบบความยั่งยืนระดับโลกและตอกย้ำว่า

“เพราะเมื่อทุกฝ่ายได้รับประโยชน์สูงสุด ความยั่งยืนจึงจะเกิดขึ้นได้จริง”