top of page

5 พฤติกรรมที่เลวร้ายที่สุดที่คนเราทำต่อกันมันสร้างความเจ็บปวดได้ไม่ต่างกับการทุบตีได้เลย

อัปเดตเมื่อ 6 เม.ย.

เคยรู้สึกเหมือนถูกมองข้าม? ถูกตัดสิน? หรือถูกบังคับให้เชื่อในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง? นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังเผชิญกับพฤติกรรมที่ทำร้ายจิตใจ ซึ่งเป็นบาดแผลที่มองไม่เห็น แต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเราอย่างรุนแรง พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำพูดหรือการกระทำ แต่เป็นการค่อยๆ กัดเซาะความมั่นใจในตนเองและทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว

1. การบิดเบือนความจริง (Gaslighting): เมื่อความจริงกลายเป็นเรื่องโกหก

การบิดเบือนความจริงเป็นการบิดเบือนทางจิตวิทยาที่ร้ายกาจ เพราะผู้กระทำจะพยายามทำให้เหยื่อสงสัยในความคิดและความรู้สึกของตัวเอง เช่น การปฏิเสธว่าเคยพูดอะไรไว้ หรือกล่าวหาว่าเหยื่อเข้าใจผิด ซึ่งจะทำให้เหยื่อรู้สึกสับสนและไม่มั่นใจในตนเอง ตัวอย่าง: "เธอจำผิดไปเองแหละ" หรือ "เธอคิดมากเกินไปแล้ว"

 ตัวอย่าง

1. การบิดเบือนความจริง (Gaslighting)

เรื่องสั้น: "ความจริงที่หายไป"

เมย์เล่าเรื่องให้เพื่อนฟังว่าเธอเจอแฟนเก่าที่ร้านกาแฟ แต่แฟนเก่าบอกว่าไม่ได้เจอเมย์เลย เมย์รู้สึกสับสนมาก เพราะเธอจำได้ว่าเห็นแฟนเก่าชัดเจน แต่แฟนเก่ากลับยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และบอกว่าเมย์คงคิดไปเอง เมย์เริ่มสงสัยในความจำของตัวเอง และรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังบ้าไป

รายละเอียด: ในเรื่องนี้ แฟนเก่าของเมย์กำลังใช้การบิดเบือนความจริงเพื่อทำให้เมย์สับสนและไม่มั่นใจในตนเอง เขาปฏิเสธความจริงที่เกิดขึ้นและพยายามทำให้เมย์เชื่อว่าเธอเข้าใจผิด ซึ่งเป็นวิธีการควบคุมและบงการที่ค่อนข้างร้ายกาจ



2. การท่วมท้นด้วยความรัก (Love Bombing): ภัยร้ายที่แฝงมาในความรัก

การท่วมท้นด้วยความรักดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อความรักนั้นมากเกินไปและรวดเร็วเกินไป มันกลับกลายเป็นเครื่องมือในการควบคุมและบงการผู้อื่น ผู้กระทำจะมอบความรัก ความสนใจ และความเอาใจใส่ให้เหยื่ออย่างมากมายในช่วงแรก เพื่อให้เหยื่อหลงใหลและพึ่งพาตนเอง เมื่อได้เป้าหมายแล้ว ความรักนั้นก็จะหายไป ทิ้งให้เหยื่อรู้สึกสูญเสียและเจ็บปวด

 ตัวอย่าง

2. การท่วมท้นด้วยความรัก (Love Bombing)

เรื่องสั้น: "รักแท้หรือหลุมพราง"

เจมส์เพิ่งคบกับคนที่ดูเหมือนจะเพอร์เฟ็กต์ทุกอย่าง คนรักใหม่ของเขาให้ของขวัญมากมาย พาไปเที่ยวในที่สวยงาม และแสดงความรักอย่างเปิดเผยตลอดเวลา แต่เมื่อเวลาผ่านไป เจมส์เริ่มรู้สึกอึดอัดกับความสนใจที่มากเกินไป และรู้สึกว่าคนรักของเขาต้องการควบคุมทุกอย่างในชีวิตของเขา

รายละเอียด: ในเรื่องนี้ คนรักใหม่ของเจมส์กำลังใช้การท่วมท้นด้วยความรักเพื่อดึงดูดและควบคุมเจมส์ เมื่อเจมส์เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ คนรักของเขาก็จะเพิ่มความสนใจเข้าไปอีก เพื่อไม่ให้เจมส์หนีไปไหน



3. การทำให้รู้สึกผิด (Guilt-Tripping): อาวุธลับที่ใช้ควบคุมผู้อื่น

การทำให้รู้สึกผิดเป็นวิธีการที่ผู้กระทำใช้เพื่อบังคับให้เหยื่อทำตามความต้องการของตน โดยการทำให้เหยื่อรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ไม่ได้ทำ หรือทำให้เหยื่อรู้สึกว่าตนเองเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด ตัวอย่าง: "ถ้าเธอรักฉันจริง เธอจะทำตามที่ฉันขอ" หรือ "เพราะเธอไม่ช่วยฉัน ฉันเลยรู้สึกแย่"

 ตัวอย่าง

3. การทำให้รู้สึกผิด (Guilt-Tripping)

เรื่องสั้น: "ความผิดที่ไม่มีวันหมด"

แม่ของหนูตาลมักจะบอกหนูตาลว่า ถ้าหนูตาลสอบไม่ได้ตามที่แม่คาดหวัง แม่จะเสียใจมาก หนูตาลจึงรู้สึกกดดันและกลัวที่จะทำให้แม่ผิดหวังเสมอ แม้ว่าหนูตาลจะพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม

รายละเอียด: แม่ของหนูตาลกำลังใช้ความรู้สึกผิดเป็นเครื่องมือในการควบคุมพฤติกรรมของลูก โดยทำให้ลูกรู้สึกว่าความสำเร็จของลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับแม่ ซึ่งเป็นการสร้างความกดดันที่ไม่จำเป็นให้กับเด็ก



4. การลดคุณค่า (Belittling): ทำลายความมั่นใจทีละน้อย

การลดคุณค่าคือการทำให้เหยื่อรู้สึกว่าตนเองไม่มีค่า ไม่มีความสามารถ และไม่ดีพอ ผู้กระทำอาจใช้คำพูดดูถูกเหยียดหยาม หรือเปรียบเทียบเหยื่อกับคนอื่นในทางที่ไม่ดี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความนับถือตนเองของเหยื่ออย่างรุนแรง

 ตัวอย่าง

4. การลดคุณค่า (Belittling)

เรื่องสั้น: "ฉันไม่ดีพอ"

บอมเป็นนักดนตรีที่ใฝ่ฝันอยากเป็นศิลปิน แต่เพื่อนสนิทของเขามักจะพูดดูถูกความสามารถของบอม บอกว่าเพลงที่บอมแต่งไม่ดี และบอมไม่มีทางประสบความสำเร็จในวงการดนตรี ทำให้บอมเริ่มไม่มั่นใจในตัวเองและเกือบจะเลิกทำตามความฝัน

รายละเอียด: เพื่อนของบอมกำลังใช้การลดคุณค่าเพื่อทำลายความมั่นใจของบอม ทำให้บอมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าและไม่ดีพอ ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง



5. การปฏิเสธความรู้สึก (Invalidation): ทำให้ความรู้สึกกลายเป็นเรื่องไร้สาระ

การปฏิเสธความรู้สึกของผู้อื่นเป็นการบอกว่าความรู้สึกของเหยื่อนั้นไม่ถูกต้อง หรือไม่สำคัญ ผู้กระทำอาจบอกว่าเหยื่อ "คิดมากเกินไป" หรือ "อ่อนไหวเกินไป" ซึ่งจะทำให้เหยื่อรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่เข้าใจในตัวเอง

 ตัวอย่าง

5. การปฏิเสธความรู้สึก (Invalidation)

เรื่องสั้น: "ความรู้สึกของฉันไม่สำคัญ"

เมย์เล่าให้แฟนฟังว่าเธอรู้สึกเศร้าเพราะทะเลาะกับเพื่อน แต่แฟนของเธอตอบกลับมาว่า "เธอคิดมากไปเองแหละ" หรือ "เรื่องแค่นี้ทำไมต้องเสียใจด้วย" ทำให้เมย์รู้สึกว่าความรู้สึกของเธอไม่มีความหมาย

รายละเอียด: แฟนของเมย์กำลังปฏิเสธความรู้สึกของเมย์ ทำให้เมย์รู้สึกว่าความรู้สึกของเธอไม่ถูกต้องและไม่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในระยะยาว


ผลกระทบของพฤติกรรมเหล่านี้

พฤติกรรมที่ทำร้ายจิตใจสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเหยื่อได้อย่างรุนแรง เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความผิดหวังในความสัมพันธ์ และความไม่มั่นใจในตนเอง

การป้องกันตัวเอง

  • ตระหนักถึงสัญญาณ: เรียนรู้ที่จะสังเกตสัญญาณของพฤติกรรมที่ทำร้ายจิตใจ

  • ตั้งขอบเขต: กำหนดขอบเขตที่ชัดเจนในการเข้าสังคม

  • พูดคุยกับคนใกล้ชิด: แบ่งปันความรู้สึกกับคนที่คุณไว้ใจ

  • ขอความช่วยเหลือ: หากคุณรู้สึกว่ากำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย: หลีกเลี่ยงคำศัพท์ทางจิตวิทยาที่ซับซ้อน

  • ยกตัวอย่างที่หลากหลาย: เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น

  • เชื่อมโยงกับประเด็นทางสังคม: เช่น การบูลลี่ในโรงเรียน การคุกคามทางออนไลน์

  • เน้นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิต: กระตุ้นให้ผู้อ่านหันมาใส่ใจสุขภาพจิตของตนเองและผู้อื่น

SEO Keywords: พฤติกรรมทำร้ายจิตใจ, gaslighting, love bombing, guilt-tripping, belittling, invalidation, สุขภาพจิต, ความสัมพันธ์, การบูลลี่

หมายเหตุ: บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต

Comments

Rated 0 out of 5 stars.
No ratings yet

Add a rating

List Title

Add a general description of the items listed below. You can introduce the list and include any relevant information you want to share. Double click to edit the text.

Item Title

Describe the item and include any relevant details. Click to edit the text.

Item Title

Describe the item and include any relevant details. Click to edit the text.

Item Title

Describe the item and include any relevant details. Click to edit the text.

Item Title

Describe the item and include any relevant details. Click to edit the text.

Item Title

Describe the item and include any relevant details. Click to edit the text.

Item Title

Describe the item and include any relevant details. Click to edit the text.

bottom of page